วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

10 อันดับเมืองที่อากาศดีที่สุดในโลก

อันดับ 10 เมืองทาลลินน์ (Tallinn) ประเทศเอสโตเนีย

               เมืองหลวงเล็กๆ ที่มีสีสันสดใสแห่งนี้มีพื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งปกคลุมด้วยต้นไม้ คนที่นี้เปรียบอากาศบริสุทธิ์ยามเช้ากับแปรงสีฟันอย่างดี ที่ช่วยให้เขารู้สึกสะอาดเอี่ยมอ่องทุกครั้งเมื่อสูดหายใจเข้าไป

                            

อันดับ 9 เมืองซูริก (Zurich) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
               เมืองนี้ไม่ได้ขึ้นชื่อแค่ระบบการเดินทางสัญจรที่สะดวกสบายเท่านั้น แต่ที่ซูริกยังมีระบบการตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ทันสมัยมากๆ โดยทางการจะนำเซ็นเซอร์ตรวจวัดสภาพอากาศติดไว้กับรถประจำทางที่ออกท่องตาม ถนนในหลายพื้นที่ เพื่อเก็บข้อมูลคุณภาพอากาศในแต่ละช่วงเวลาของวัน และรายงานผลตรงไปยังอุปกรณ์มือถือของคนในเมืองทันที


อันดับ 8 กรุงสตอกโฮล์ม (Stockholm) ประเทศสวีเดน

               ใครที่เคยไปเที่ยวสตอกโฮล์มคงต้องประทับใจกับบ้านเมืองที่สะอาดสะอ้านและ อากาศที่สดชื่นแน่นอน แต่ทราบหรือไม่ว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชาวเมืองที่นี่ใช้รถยนต์ระบบไฮบริดมากที่สุดในยุโรป


อันดับ 7 กรุงเฮลซิงกิ (Helsinki) ประเทศฟินแลนด์

               น่าแปลกที่เมืองหลวงแห่งนี้มีมลพิษที่เกิดจากรถยนต์น้อยมาก ไม่ถึงครึ่งของมลพิษทั้งหมดในอากาศ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการออกแบบถนนให้กว้างมากเป็นพิเศษ ทำให้การจราจรไม่ติดขัด


อันดับ 6 เมืองออตตาวา (Ottawa) รัฐออนแทรีโอ (Ontario) ประเทศแคนาดา

               นอกจากจะเป็นเมืองหลวงของประเทศแคนาดาแล้ว ออตตาวาก็ยังขึ้นชื่อเรื่อง “ลานสเกตที่ใหญ่ที่สุดในโลก” โดยลานสเกตที่ว่านี้เกิดจากน้ำในคลองริโด (Rideau Canal) ขนาดใหญ่ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองแปรสภาพกลายเป็นน้ำแข็งตลอดทั้งสายในช่วงฤดู หนาว


อันดับ 5 เมืองแคลกะรี (Calgary) รัฐแอลเบอร์ตา (Alberta) ประเทศแคนาดา

               แม้จะมีโรงงานอุตสาหกรรมผลิตแก๊สและน้ำมันจำนวนมากตั้งอยู่ในเขตเมือง แต่ด้วยการวางผังเมืองและระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ลดปริมาณมลพิษลงได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมืองที่อากาศดีที่สุดของโลก


อันดับ 4 เมืองเกรตฟอลส์ (Great Falls) รัฐมอนแทนา (Montana) สหรัฐอเมริกา

               เก รตฟอลส์ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สวยงามเหมาะกับกิจกรรมกลาง แจ้งอย่างเช่นการเดินป่า


อันดับ 3 เมืองโฮโนลูลู (Honolulu) รัฐฮาวาย (Hawaii) สหรัฐอเมริกา

               Honolulu ในภาษาฮาวายแปลว่า อ่าวที่พักพิง และเมืองนี้ก็น่าอยู่น่าพักพิงสมชื่อจริงๆ เพราะตัวเมืองตั้งอยู่บนเกาะฮาวายซึ่งไกลจากแผ่นดินใหญ่ถึง 2,000 ไมล์ ดังนั้น มลพิษจากเมืองใหญ่ไม่ว่าจะเยอะสักแค่ไหนก็ข้ามไปไม่ถึง


อันดับ 2 เมืองแซนตาเฟ (Santa Fe) รัฐนิวเม็กซิโก (New Mexico) สหรัฐอเมริกา

               แซ นตาเฟเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองในสหรัฐอเมริกาที่มีมลพิษในอากาศน้อยมากๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะที่ตั้งของเมืองซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่า และยังมีกฎหมายที่เข้มงวด ห้ามการเผาไม้ในที่โล่งแจ้งด้วย


อันดับ 1 เมืองไวต์ฮอร์ส (Whitehorse) เมืองหลวงของดินแดนยูคอน (Yukon) ประเทศแคนาดา

               เหตุที่เมืองไวต์ฮอร์สมีอากาศบริสุทธิ์เป็นอันดับ 1 ของโลกนั้น นอกจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยตามธรรมชาติแล้ว คงเป็นเพราะความหนาแน่นของประชากรที่น้อยเอามากๆ แถมยังมีกฎระเบียบที่เคร่งครัดเพื่อรักษาอากาศให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น